July 15, 2009

รักแท้....เป็นแค่อุดมคติ

ก่อนจะเริ่มกล่าวถึงหัวข้อที่จะเขียนในคราวนี้ ฉันขอออกตัวก่อนว่า
ฉันเป็นคนที่มีประสบการณ์ตรงในเรื่องของความรักน้อยมาก
แต่ถึงกระนั้นฉันก็ได้รับเลือกให้ทำหน้าที่เป็นศิราณีคอยรับฟัง ปลอบใจ และให้คำปรึกษาอยู่บ่อยครั้ง
จากที่ได้ยิน ได้ฟังเรื่องที่ส่วนใหญ่ก็มักเป็นเรื่องเศร้าเคล้าน้ำตาเพราะรักสามเส้าทั้งนั้น
มุมมองที่ฉันมีต่อความรักจึงออกมาเป็นสีเทาหม่นมากกว่าที่จะเป็นสีชมพู

หากชีวิตเป็นเหมือนการเดินทาง การมีความรักก็เปรียบได้กับเพื่อนร่วมทางอีกคนหนึ่ง
ซึ่งมาทำให้การเดินทางของฉันน่าสนุกยิ่งขึ้น และบรรยากาศระหว่างทางก็น่ารื่นรมย์ยิ่งขึ้น
ยามที่พบเจอกับอุปสรรค เราจะร่วมฟันฝ่าคิดหาหนทางก้าวเดินไปพร้อมกัน
ร่วมหัวจมท้าย...ซื่อสัตย์...เชื่อใจกัน...นี่แหละความรักในอุดมคติของฉัน

หากแต่ในความเป็นจริง ความซื่อสัตย์ดูจะเป็นสิ่งที่หาได้ยากเหลือเกินในความรัก
เพราะความเห็นแก่ตัวของฝ่ายหนึ่ง คำโป้ปดมากมายถูกขุดมาใช้หลอกคนที่เขาบอกว่ารัก
เพราะศีลธรรมความใจเดียวกลายเป็นแนวคิดของพวกหัวโบราณเต่าล้านปี
เพราะแม้แต่คำว่านอกใจยังมีชื่อเล่นน่ารักล้ำสมัยว่า “มีกิ๊ก”
ความสวยงามของความรักกำลังถูกทำลายลองด้วยความรักจอมปลอม
คำว่า “รัก” กลายเป็นอาวุธที่ใช้พันธนาการใจคนโดยคนที่เห็นแก่ตัว
ความเชื่อใจกลับกลายเป็นจุดอ่อนสร้างความเจ็บปวดเมื่อสุดท้ายความจริงเปิดเผย

แม้ว่าจะได้ยินได้เห็นเรื่องแบบนี้หลายต่อหลายหน ฉันก็ยังทำใจยอมรับว่ามันเป็นเรื่องปกติไม่ได้
เพราะการโดนทำร้ายโดยคนที่เรารักแบบนี้มันเจ็บแสบเสียยิ่งกว่าโดนศัตรูคู่อาฆาตทำเสียอีก
ถ้าหากคุณลองนึกถึงใจเขาใจเรา ไม่มีใครอยากโดนหักหลัง โดนนอกใจ โดนโกหกโดยคนที่รักหรอก
หัดเรียนรู้จักคำว่า “พอ” แต่ถ้าคุณยังไม่พร้อมที่จะหยุด สิ่งที่ควรทำก็คือปล่อยเขาไป
ไม่ใช่ทำตัวเป็นพวกขี้ขลาด เหนี่ยวรั้งไว้ทุกทางเพียงเพราะความกลัว
กลัวว่าในท้ายที่สุดคนที่คุณเลือกทิ้งไปอาจจะเป็นความรักแท้ที่คุณอาจไม่มีวันได้เจออีกเลย

ความรักยังคงเป็นเรื่องงดงามเสมอสำหรับฉัน ตราบใดที่มันยังเป็นเพียงเรื่องของคนแค่สองคน
แต่ที่ผ่านมาฉันทนเห็นคนมากมายร้องไห้ฟูมฟายให้กับสิ่งที่ไม่อาจเรียกได้ว่าคือความรัก
เพราะในความรักไม่จำเป็นต้องมีลำดับที่หนึ่งหรือสอง
ทุกหยาดน้ำตาที่ไหลลงอาบใบหน้าให้กับคนที่ไม่อาจพูดได้ว่าเป็นคนรัก
เพราะคนที่รักกันย่อมไม่ทำให้อีกฝ่ายต้องเสียใจ
ที่น่าเจ็บช้ำน้ำใจก็คือการใช้คำว่าว่า “รัก” มาพันผูกอีกฝ่ายกับความทรมานเพียงเพื่อความสุขของตัวเอง

ถ้าหากว่าในการเดินทางของฉันจะต้องเจอเพื่อนร่วมทางเห็นแก่ตัวแบบนี้สักคน
ฉันก็ยินดีเลือกที่จะเดินไปตามทางของฉันเพียงลำพังต่อไปแบบนี้ดีกว่า
มีความสุขอย่างพอเพียงกับเส้นทางข้างหน้า ยิ้มทักทายคนที่ผ่านมาบ้างแล้วต่างก็แยกย้ายไป
เพราะในเมื่อเพื่อนร่วมทางก็ไม่ใช่สิ่งจำเป็นอะไรต่อการเดินสู่จุดหมายของฉัน
ไม่ว่าจะมีหรือไม่มี มันก็เป็นสองเท้าและสองมือคู่นี้ของฉันต่างหากที่จะพาตัวเองไปสู่จุดหมาย

March 23, 2009

ณ ขณะรัก (A Moment In June)

คุณจะต้องเดินทางค้นหาใจตัวเองนานสักเท่าไหร่กว่าจะไปถึงขั่วขณะที่คุณรักใครสักคนหนึ่ง
และหากคน ๆ นั้นไม่ได้ยืนอยู่ตรงหน้าเมื่อคุณไปถึงชั่วขณะรักแล้วคุณจะทำเช่นไร
ระหว่างปล่อยให้ความรักผ่านพ้นไปเป็นเพียงอดีต หรือคุณจะสร้างโอกาสที่สองเพื่อเพื่อจะได้รักกันอีกครั้ง
และหากโอกาสครั้งที่สองไม่ได้มีไว้สำหรับทุกคน คุณยังยินดีที่จะเสี่ยงรับความผิดหวังหรือไม่
บทสรุปของความรักก็มีอยู่แค่สองรูปแบบคือจบแบบสมหวัง หรือจบแบบผิดหวัง
หากโอกาสแรกต้องจบลงอย่างผิดหวัง จะมีสักกี่คนที่อยากจะเสี่ยงเพื่อโอกาสครั้งที่สอง

ความรักมากมายต้องสิ้นสุดลงเพียงเพราะเวลาไปเจือจางความรักที่มีให้แก่กันเฉกเช่นความรักของปกรณ์และพล
หรือความรักที่เกิดขึ้นอย่างผิดที่ผิดเวลาก็มักไปไม่ถึงฝั่งเฉกเช่นความรักของอรัญญาและกรุง
คนมากมายยอมพ่ายแพ้พร้อมกับความรักที่สิ้นสุดลง เพียงเพราะความกลัว
...กลัวว่าหากเริ่มใหม่อีกครั้ง ความรักก็จะจืดจางและจบลงเช่นเดิม...
เหมือนปกรณ์ที่มัวลังเลเพิกเฉยต่อเสียงเรียกร้องของหัวใจตัวเอง แล้วปล่อยให้คนรักเดินห่างออกไปไกลสุดตา
คนมากมายยอมละทิ้งโอกาสที่ผ่านเข้ามาอีกครั้ง เพียงเพราะความขลาด
...ขลาดเกินกว่าจะฉวยคว้าโอากาสนั้นไว้ เพียงเพราะความล้มเหลวยังฝังใจ...
เหมือนกรุงที่แบกเอาความรู้สึกผิดครั้งก่อนไว้ในมือไม่เหลือไว้เพื่อเอื้อมคว้าโอกาสที่อยู่ตรงหน้า
แล้วจะมีสักกี่คนที่จะกล้าลงเสี่ยงเพียงเพื่อโอกาสที่ตัวเองก็ยังไม่รู้ว่าจะได้รับหรือไม่

ฉันว่าสาระสำคัญของความรักไม่ได้อยู่ที่สุดท้ายแล้วมันจะจบลงเช่นไร
แต่อยู่ที่ ณ เวลานั้นเราปฏิบัติกับความรักครั้งนั้นอย่างไรต่างหาก
เพราะทุกห้วงขณะที่ได้รักใครสักคนมักจะมีความทรงจำที่แสนสวยงามแฝงอยู่ด้วยเสมอๆ
เพื่อจะสร้างความทรงจำอันมีค่าเหล่านี้อีกครั้งหนึ่ง...คุณจะยอมเสี่ยงไหม ?
ฉัน...ก็เหมือนอรัญญา...เลือกที่จะให้โอกาสตัวเองอีกครั้ง...โอกาสที่หัวใจเรียกร้องมาตลอด
มันคุ้มมิใช่หรือที่จะเริ่มรักครั้งใหม่กับคนเก่า ณ ช่วงเวลาใหม่ ได้ดื่มดำกับความทรงจำเก่า ๆ
ที่สำคัญได้สรรสร้างความทรงจำใหม่ ๆ ที่เราต่างก็มั่นใจว่าจะสวยงามและน่าจดจำกว่าเก่า

คงดีหากปกรณ์จะล่วงรู้คุณค่าของความรักของเขาเองเร็วกว่านี้ หากเขายอมละทิ้งความกลัวและ
ความลังเลทุกอย่างไป แล้วทำตามสิ่งที่หัวใจร่ำร้อง เพราะเขาอาจจะไม่ต้องสูญเสียสิ่งที่รักไป
คงดีหากเขาจะกล้าแม้เพียงสักครึ่งของอรัญญาผู้เฝ้าตามหาความทรงจำตลอดสามสิบปี
คงดีหากเขาจะตระหนักถึงคุณค่าของความรักที่อยู่ในมือเหมือนอรัญญาที่ศรัทธาในความรักแม้รู้ว่าเป็นสิ่งที่ผิด
...เขาอาจจะเป็นหนึ่งในไม่กี่คนซึ่งมีโอกาสที่จะได้ 'รัก' อีกครั้ง...
คงจะดีที่สุดหากหนังจบ คุณได้หันกลับมามองความรักที่มีอยู่ เห็นคุณค่าและรักษามันไว้ให้นาน
เพราะทุกความรู้สึกของ ณ ขณะรักนี้จะเป็นสิ่งที่แม้แต่กาลเวลาก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้

....20202... - Tee Chaidej

February 12, 2009

ความคิด(ถึง)

คุณเคยฟังเพลงสักเพลงที่เหมือนกับแต่งขึ้นมาเพื่อคุณโดยเฉพาะไหม

เพลงที่ทุกถ้อยคำมันทิ่มแทงโดนใจมากเสียจนน้ำตาคุณไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว

เพลงที่ทำให้เวลาคุณหมุนย้อนกลับไปยังอตีตหวานอมขมที่ผ่านมา

เพลงที่ทำให้คุณทั้งเศร้าและสุขกับวันวานเหล่านั้นไปพร้อม ๆ กัน

เพลงที่คุณพร่ำอ้อนวอนต่อฟ้าขอให้คนในอดีตของคุณได้ยินมันแล้วนึกถึง

คุณคุณมีเพลงแบบนั้นไหม?


เพลง “ความคิด” ของแสตมป์ 7th Scence ประกอบภาพยนต์เรื่อง A Moment In June

ทำเอาฉันน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวในครั้งแรกที่ได้ฟัง เพราะมันโดนใจฉันอย่างน่าใจหาย

ทุกถ้อยคำที่ถูกร้องไปตามจังหวะดนตรีได้ไปเปิดกล่องแห่งความทรงจำที่ฉันมีต่อคนคนหนึ่ง

มันตอกย้ำความรู้สึกที่ฉันมีให้คนคนหนึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาเกือบห้าปี

เหมือนกับฉันกำลังนั่งดูหนังรักสักเรื่อง หากแต่ภาพยนต์เรื่องนี้เป็นเรื่องรักของตัวฉันเอง

มันอาจเป็นแค่ความรักธรรมดา ๆ สำหรับคนอื่น แต่สำหรับฉันมันยิ่งใหญ่และงดงามเท่าที่ฉันจะรักคนสักคนได้


เพลงช่วงแรกสะกดให้ฉันย้อนเวลากลับไปเมื่อตอนที่ความรักผลิบาน เมื่อตอนที่ฉันรู้สึกว่าโลกคือดาวเคราะห์ที่น่าอยู่ที่สุดในกาแลคซีนี้

น่าแปลกใจที่ทุกเหตุการณ์ ทุกคำพูด ทุกเรื่องของเราตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอจนถึงวันสุดท้ายที่ต้องจากยังคงเด่นชัดในความทรงจำของฉัน

ฉันจำได้แม้กระทั่งความรู้สึกของฉัน ณ ขณะนั้น จำได้ว่ารู้สึกยังไงเมื่อได้เห็นเขาครั้งแรก

จำได้ว่าดีใจแค่ไหนที่ได้รู้จักเขา จำได้ว่าตื่นเต้นแค่ไหนที่ได้คุยกันครั้งแรก

จำได้ว่าสุขใจเพียงใดที่ได้จับมือเดินเคียงข้างกัน จำได้ว่าอบอุ่นเพียงใดในอ้อมกอดของเขา

ทุกความรู้สึกมันยังสดใหม่เด่นชัดเกินกว่าจะทำใจให้เชื่อได้ว่า

ทุกความรู้สึก ทุกความทรงจำ ทุกความสุขใจเหล่านั้น ตอนนี้กลับกลายเป็นเพียงอดีต


คำว่า “เรา” เรื่องของ “เรา” รักของ “เรา” ณ ขณะที่ฉันกำลังหายใจอยู่นี้เป็นเพียงอดีตที่มิอาจย้อนหวนคืน

ตอนนี้กลายเป็น “ฉัน” และ “เขา” ที่ไม่มีทางไหนทำให้กลับมาเป็น “เรา” ได้อีกแล้ว

ฉันเจ็บปวดที่เพิ่งตระหนักได้ถึงความรู้สึกมากมายที่มีต่อเขาเมื่อไม่นานมานี้ซึ่งมันก็สายเกินกว่าที่จะบอกให้เขาได้รับรู้

ฉันเพิ่งรู้ว่ามันมากมายเพียงใด...มันมากจนกระทั่งเก็บไว้ไม่ไหว...มันเอ่อล้นจนเนื้อที่ในใจไม่สามารถกักเก็บได้พอ

ความรู้สึกทั้งหมด ความคิดถึงที่มี ความรักที่ทวีขึ้นในใจฉันกลับเพิ่งคิดได้เมื่อวันที่ “คนรัก” จากไปแสนไกล

“...หากเธอนั้นยังอยู่ จะกอดเธอให้ชื่นใจ และคอยพูดออกไปทุกสิ่งที่อยู่ในใจฉัน...”


เมื่อจบเพลงฉันถึงได้เห็นว่าฉันเองก็เคยมีความรักที่สวยงาม ถึงแม้ว่ามันจะกลายเป็นอดีตแต่มันก็เป็นอดีตที่งดงาม

แม้โอกาสที่สองของฉันกับเขาจะเป็นศูนย์ แต่ขอเพียงแค่ทั้งฉันและเขาไม่ลืมรักครั้งนั้นของเรา ฉันว่ามันก็เพียงพอแล้ว

ทุกวันเพลงนี้ได้กลายเป็นเพลงประจำที่ฉันต้องฟังวันละหลาย ๆ รอบ ไม่ใช่เพื่อย้อนเวลาหรือเพื่อตอกย้ำอดีต

แต่เพื่อดื่มด่ำกับความงดงามของความรักครั้งนั้น ที่แม้จนเวลานี้ก็ยังคงเป็นรักเดียวที่ฉันมี



“ยังเดินผ่านทุกวัน ที่ๆเราพบกัน เมื่อก่อน

ยังจำซ้ำๆได้ทุกตอน ราวกับมีใครมาหมุน ย้อนเวลา แต่ก็คงจะหมุนย้อนได้แค่ในความคิด ในชีวิตจริงคงไม่เจอกันอีกแล้ว

ยืนอยู่ตรงที่เดิม แต่ไม่มีวี่แวว เธอจากไปแล้ว และคงไม่ย้อนคืนมาหา

*ได้แต่ฝาก ความคิด ของฉันเอาไว้ เผื่อวันไหนเธอผ่านมา

เห็นที่เดียวกันนี้ เธอจะนึกขึ้นได้ว่า

เคยมีคนหนึ่งยืนข้างเธอ อยู่ตรงนี้เสมอ ตลอดมา

ให้เธอสัมผัสความคิดที่ฉันทิ้งไว้ อาจไม่เห็นได้ด้วยตา

ฉันจะฝากเอาไว้ อยู่ในพื้นดินและท้องฟ้ามันเป็นความคิดที่กระซิบว่า ฉันยังรักเธอ..*

อยากเจอเธอเหลือเกิน เพราะก่อนที่เราต้องเดินแยกทาง

ฉันมีความคิดหลายๆอย่าง หลายอย่างเหลือเกินที่ฉันไม่ได้พูดไป

แต่กลับมานึกขึ้นได้ในเวลานี้ ในเวลาที่เธอเดินจากฉันไปแสนไกล

หากเธอนั้นยังอยู่ จะกอดเธอให้ชื่นใจ และคอยพูดออกไปทุกสิ่งที่อยู่ในใจฉัน”

¤ÇÒÁ¤Ô´ - STAMP