September 4, 2007

กระเป๋าที่อีกฝั่งแม่น้ำ

โชคชะตานี่ก็ชอบเล่นตลกกับชีวิตมนุษย์ตัวเล็ก ๆ เสียเหลือเกิน...คุณว่ามั๊ย
เอ...หรือว่าจะเป็นใจคนกันนะ ที่มันช่างรวนเรทำชีวิตใครต่อใครต้องปั่นป่วน ?
ฉันว่ามันน่าจะเป็นเพราะทั้งสองอย่างนั่นแหละที่ทำให้ชีวิตของฉันป่วนปั่นเสียเหลือเกิน

สายตาที่ทอดไปเบื้องหน้าไกลเท่าที่คนสายตาสั้นอย่างฉันจะมองเห็นได้กระทบ
กับวัตถุอย่างหนึ่ง...ไม่อยากจะเชื่อนั่นมันกระเป๋าเป้เจ้ากรรมที่ฉันตัดใจปล่อย
ให้กระแสน้ำพัดไปเพื่อเอาชีวิตรอดมาได้อย่าง หวุดหวิดในคราวก่อนนี่นา!!!
ใจดวงน้อยเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ มันต้องเป็นกระเป๋าใบเก่าแต่เป็นใบเก่งของฉันแน่ๆ
โอ...ถ้าใช่ฉันควรจะทำอย่างไรดีล่ะ ฉันอุตส่าห์ได้เดินตัวเบาอยู่ไม่กี่วัน แต่ฉันก็เสียดายมันอยู่เหมือนกันนะ...
ฉันสับสนไปหมดรู้สึกเหมือนมีเทวดาและซาตานตัวน้อยกำลังเถียงกันอย่างเอาเป็นเอาตายบ่นบ่าทั้งสองข้างของฉัน
ว่าฉันควรจะไปคว้ามันกลับมาแบกเหมือนก่อนหรือเดินผ่านไปดี...

น่าตลกจริง ๆ โชคชะตาทำให้ฉันต้องทิ้งเป้ไป แต่มันก็ทำให้ฉันต้องกลับมาเจออีกอย่างนั้นหรือ
ที่น่าขันกว่านั้นคือ ใจฉันที่มันกลับลังเลขึ้นมาน่ะสิ
หรือว่าเป็นเพราะเจ้ากระเป๋าเป้แสนอ้วนใบนั้นที่มันอยากกลับมาอยู่บนหลังฉันกันนะ
...นี่ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย!!!
ฉันยังจำทุกรายละเอียดของมันได้ดี สภาพภายนอกของมันถึงจะดูไม่เก่านัก แต่เพราะฉันไม่ระวังเลยทำให้ข้างในมีรอยขาดเต็มไปหมด
อาจเป็นเพราะของที่ฉันบรรจุลงไปมีปลายคมและฉันก็ไม่ระมัดระวังมากพอ ทำให้มันมีรอยขาดยาว 2 รอยซึ่งยังเห็นเป็นรอยเย็บอยู่เลย
นี่ยังไม่นับรอยขาดอีดนิด ๆ หน่อย ๆ ที่ถ้าไม่สังเกตก็คงมองไม่เห็น

ความทรงจำปรากฎในความคิดฉันเหมือนหนังที่ฉายบนผืนผ้าใบฉากแล้วฉากเล่า
ฉันเริ่มรู้สึกเสียดายขึ้นมาแล้วสิ โดยไม่รู้ตัว ฉันสาวเท้าก้าวยาวและเร็วขึ้นหวังอยากให้ไปถึงกระเป๋าเป้โดยเร็ว
รู้ตัวอีกทีเท้าฉันมาหยุดอยู่ริมแม่น้ำที่ถึงแม้จะไม่กว้างมากมายนัก แต่ก็กว้างและลึกพอที่จะฆ่าคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นอย่างฉันได้
นั่น...กระเป๋าของฉันนอนเกยฝั่งอยู่โน่นไง...มันคือของฉันแน่แล้ว...ฉันจำมันได้ดี
โอ...เสียแต่ว่ามันเกยอยู่ที่อีกฝั่งแม่น้ำน่ะสิ ลำธารสายนั้นคงไหลมาบรรจบกับลำธารสายอื่น ๆ ที่แม่น้ำนี้ ฉันจะทำอย่างไรดี ?

ฉันรู้ว่าฉันก็สามารถเดินต่อไปได้ ถึงแม้ไม่ได้แบกกระเป๋าเป้ใบเก่งใบนั้น...แต่...
ความทรงจำมากมายทำให้ฉันไม่อยากจะทิ้งมันไว้อย่างนั้น
ตอนนี้ฉันนั่งลงและกำลังใช้ความคิดว่าควรจะพยายามไปเอามันกลับคืนมาดีไหม ?
คราวนี้ฉันจะไม่รีบ ยังมีเวลาให้ฉันคิด (ถึงแม้จะไม่นานนัก แต่ก็มากพอจะได้คำตอบสุดท้าย...จริง ๆ)
ฉันจะถือโอกาสพักไปในตัวด้วย เมื่อฉันได้คำตอบและลุกขึ้นมันจะต้องเป็นคำตอบสุดท้าย
หากฉันเลือกจะข้ามแม่น้ำไปหยิบมัน นั่นหมายความว่าฉันเอาชีวิตเสี่ยงเพื่อไปหยิบมาดังนั้นฉันจะไม่ยอมทิ้งมันอีก
แต่หากฉันเลือกที่จะเดินผ่านไป ฉันก็จะไม่หันหลังกลับมามองมันอีก...

8 comments:

Odysseus said...

ติดตามต่อตอนหน้า...

Anonymous said...

Well done na ka ^^ Actually not yet to read it na ka coz so busy but i commit to read it in soon ja (why i do not have free time same as others na nia) what's a pity girl-_-'

Anonymous said...

อารายเนี่ย กะลังมันส์เลย ดันมาจบก่อนซะได้ ชิ...อยากรุตอนต่อไปแล้วอ่ะ มาอัพไวๆนะ อิอิ ตุบน้อย

ikke said...

บางครั้งเราก็ไม่จำเป็นต้องมีทางเลือกแค่สองทางในชีวิต เราอาจจะเดินอยู่แถว ๆ แม่น้ำคอยด้อม ๆ มอง ๆ ว่ากระเป๋าเป้ใบนั้นจะยังคงเกยตื้นอยู่ที่เดิมไหม ณ วันหนึ่ง สายน้ำอาจจะพัดพากระเป๋าเป้ใบนั้นไปยังที่ที่เหมาะสมกับมัน ใครสักคนอาจจะมาหยิบกระเป๋าเป้ใบนั้นมาใช้ เขาหรือเธออาจจะเหมาะกับกระเป๋าเป้ใบนั้นมากกว่าเรา หรือมันอาจจะจมลงสู่ก้นแม่น้ำรอวันสลายไปตามธรรมชาติ ถ้าเราเห็นว่า มันอยู่ในที่ที่เหมาะสมกับมันแล้ว เราอาจจะค่อย ๆ เดินจากไปด้วยใจที่เป็นสุขก็ได้

จริงปะ....

Anonymous said...

ยังไม่ได้อ่ายเล้ยยย --"

ก็แกเขียนไม่เว้นบรรทัดอ่า มันเลยอ่านยาก ทีหลังเว้นหน่อยเด้

ดีมะๆๆ

ไว้เดี๋ยวจะมาอ่าน


ปล.คิดถึงๆ

ปล.(อีกที) จริง จริ๊งง

Anonymous said...

แง๊วววว

ลืมลงชื่อเมื่อกี้

"เกร๋" จ้า

Anonymous said...

น่าเขียนหนังสือขายนะครับ

Anonymous said...

คนเราตอนช่วงเวลาแรกเราเคยคิดว่าสิ่งที่เราทิ้งไว้มันไม่มีค่าอันไดเลย...แต่พอกลับหวนคิดใหม่มันมีบางอย่างที่หายไปกับสิ่งนั้นด้วย..ถามใจตัวเองว่าขาดมันไปเป็นไรมากไหม ? ถ้ามากก็ต้องเอามันคืนมาซะ
ถ้าแค่เสียดายเฉยๆ อย่าคิดถึงมันเลย ...คิดเสียว่ามันหมดอายุการใช้งานไปแล้ว...

*กระเป๋าใบนั้นมีรายมากไหม อยากได้คืนต้องฝ่าฟันเอาคืนมาเถอะเพื่อน...ถ้าเอาคืนมาแล้วมันไม่เหมือนเดิม..ต้องยอมรับซ่อมมันซะ ใช้เวลากับมันนิดนึง
เดี๋ยวก็กลับมาเหมือนเดิม หรือใกล้เคียง เนอะๆ**